วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

การฝึกแบบ Circuit Training คืออะไรหนอออ?

                                                      การฝึกแบบ Circuit Training   คืออะไรหนอออ?


เรียบเรียงใหม่โดย Antimage

วันนี้วันดีเดือนใหม่ ปล่อยของเลยครับ งานแรกขอเจิม สาวๆหนุ่มๆหลายท่าน ในนี้ก็วัยทำงานซะส่วนใหญ่ จะหาเวลาออกกำลังก็ยากเย็นแสนเข็ญ เวลาไม่เอื้ออำนวย ต่อให้มีเวลาก็เหลือเพียงเล็กน้อย จะซื้อ โฮมยิม เข้าบ้านก็ใช่เรื่อง ฉะนั้นวันนี้ผมมีรูปแบบการออกกำลังกายอีกแบบหนึ่งมาฝากเพื่อนๆกัน พร้อมก็ลุยได้ทุกที่ทุกเวลา ผลลัพธ์อะหรอ สุโก๊ยย เลยแหละ.. สิ่งที่ผมว่ามานี้ก็คือ การออกกำลังกายแบบสถานี (Circuit Training) โดยจะใช้เวลาจากสถานีหนึ่งไปยังสถานีหนึ่ง ประมาณ 30 วินาที ถึง 5 นาที คล้ายๆเข้าค่ายลูกเสือนะผมว่า อารมณ์ประมาณย้ายฐาน (555+)  ฝึกประมาณ 10-15 ครั้งต่อสถานี เวียนไปประมาณ 3 รอบได้ ไม่ต้องใช้น้ำหนักลูกเหล็กเยอะ ประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ก็พอ ส่วนมากจะมีคนตะโกนบอกเวลาเริ่ม-และเปลี่ยนฐาน บางคนก็ฝึกสลับกับ แอโรบิก ในที่นี้ผมหมายถึง วิ่ง ปั่นจักรยาน นะ มันช่วยเสริมกล้ามเนี้อได้ ถ้าใครอ่านถึงตอนนี้แสดงว่าเริ่มสนใจแล้ว มาดูกันว่าเราเหมาะกับพวกนี้หรือปล่าว เอาตามไปอ่านกันต่อเลยครับ

คนประเภทไหนที่เหมาะสำหรับโปรแกรมนี้ ผมว่าเหมาะกับพวกคนที่ต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งและเพิ่มความอึดในระบบหายใจ ยังไงก็ตามถ้าคุณฝึกแล้วยังรู้สึกไม่เข้มข้นพอ คุณจะฝึกแอโรบิกหรือยกเหล็กแยกต่างหากก็ได้นะถ้าคุณไหว แต่ถ้าคุณอยากลองฝึก Circuit ลองดู ให้เพิ่มอีกสัก 20 นาที ในวันที่คุณฝึกแบบ แอโรบิก อย่างน้อยก็สักสามวันต่อสัปดาห์

ปัจจัยหลักที่ทำให้ล้า สายกลาง ครับ การฝึก
Circuit  ถ้าดูแล้วการฝึกมีแนวโน้มที่เข้มข้นมากไปลองปรับให้เหมาะสมกับคุณ ผู้เริ่มต้นหัดจากน้ำหนักน้อยๆ แล้วค่อยขยับขึ้นไปก็ได้เชื่อเหอะมันดีกว่าฝึกเกินตัว เป็นไหนๆ




การประสานงาน ไม่ต้องกังวลฝึกเองคนเดียวได้ถ้าคล่องแล้ว

ใครเป็นคนค้นพบ การฝึก
Circuit คนที่กำลังมองหาวิธีการออกเหงื่อแบบสะดวก การฝึก Circuit ยังเป็นที่นิยมในหมู่คนมีเวลาน้อยที่อยากจะมีกิจวัตรประจำวันในการออกกำลังกายรวมอยู่ด้วย ถ้าใครต้องการออกกำลังกายแบบสนุกๆ  ผมว่าคุณต้องชอบแน่ๆ

ไหวพริบผู้ฝึกสอนต้องชัดเจน ผู้ฝึกสอนต้องใส่ใจและตระหนักถึงผู้ฝึกในแต่ละชั้นเรียนตามระดับของผู้ฝึกแม้ว่า ผู้ฝึกจะฝึกย้ายฐานแล้วไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ผู้ฝึกสอนก็ควรจะต้องมุ้งเน้นด้วยเทคนิคที่เหมาะสม การพักระหว่างสถานีไม่ควรเกิน 1นาที



เคล็ดลับ ลองสังเกตความต่างในการฝึกแบบนี้ดู หลายๆคนก็ประหลาดใจในการฝึกแบบนี้ ลองดูคลิปตัวอย่างนี้เพิ่มเติมแล้วจะเข้าใจมากขึ้นครับ  

                                       

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

ฝึกมวยไทยด้วยตัวเองก็ได้ง่ายจัง(หรอ?)



ผู้เขียน  Orion Lee แปลมั่ว Antimage

(ความในใจผู้แปล: บทความนี้ เป็นบทความต่างประเทศ ที่เค้ามีความนิยมชมชอบในกีฬามวยไทย และได้ทำการเผยแพร่การฝึกด้วยตนเองลงใน โลกโซเซียล ทีนี้เราลองมาดูกันว่าเค้ามีแนวทางและแนวคิดอย่างไร เกี่ยวกับการฝึกมวยไทย คนไทยหลายคนเลยนะครับที่ไม่ได้อยู่ใกล้ค่ายมวย หาที่ฝึกลำบาก บางทีไปขอฝากตัว เค้าก็ไม่ให้ หรือให้ ก็ไปแตะกระสอบแบบเหงาๆ ไม่มีใครสนใจ เพราะคนล่อเป้าก็ทุ่มไปแต่ตัวเด่นตัวดังในค่ายซะหมด มันน่าน้อยจายยยย เอาล่ะครับ เชิญเพื่อนๆเสพไปพร้อมๆกันเลยครับ )


เมื่อเราฝึกศิลปะป้องกันตัว โดยไม่มีแบบแผน ไม่มีรูปแบบในการฝึก การฝึกเป็นคู่ก็ช่วยได้คุณได้มาก มันจะปราศจากข้อสงสัย ว่าแบบไหนดีแล้ว และแบบไหนต้องปรับปรุง ถ้าเราฝึกกับคนอื่นมันก็ได้ จำลองการต่อสู้จริง มันยังช่วยคุณในการปรับปรุงแก้ไข ให้ทักษะคุณมันดูเข้าที่เข้าทางมากขึ้นด้วย ยกตัวอย่าง อย่างมวยไทยเนี้ยะ เค้าเน้นการฝึกร่วมกับคนอื่น เพราะกำหนดเวลาในการฝึกได้ (ผู้แปล:คงหมายถึงเล่นเป็น ยกๆไปทั้งระยะ จังหวะ มันช่วยได้มาก

แต่มันก็น่าเสียดายอยู่หรอกนะถ้าวันไหนไม่มีเพื่อนฝึกด้วย แต่อย่าพึ่งกังวลไป
(ผู้แปล:แต่เดี๋ยวก่อน ซาร่า!!) เพราะการฝึกคนเดียวก็ยังมีประโยชน์แฝงอยู่มากมาย เมื่อผมนั่งครุ่นคิดบนกระสอบทรายผมก็พบว่า  ผมได้ค้นพบสิ่งใหม่ ที่ใช้ได้จริงแก้ไขได้จริง ในการแตะที่ผิดพลาด เล็กๆน้อยๆของของผม ในขณะที่ซ้อมกับคู่ซ้อมก็ได้ผลมากขึ้น เพราะการฝึกด้วยตนเองก็ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าคุณจะฝึกศิลปะการต่อสู้ชนิดไหนก็ตาม

ตามทักษะการฝึกที่กล่าวมานี้  ยังจะช่วยคุณ ในการเผาผลาญแคลลอรีอีกด้วย แต่ก่อนจะทำตามผมว่าคุณควรมีพื้นฐานมาบ้าง ต่อยกระสอบ กระโดดเชือก และเพลง มันส์ๆ ซักเพลง ช่วยคุณได้

ส่วนที่ 1: การอุ่นเครื่อง
ยืด เหยียด- 10 นาที

กระโดดเชือก - 2 รอบ (รวม6 นาที)
ชกลม - 3 รอบ (รวม9 นาที)

ตอนคุณ ชกลม บอกเลยนะ ห้ามขี้เกียจ  มันง่ายมากเลยไอ้การขี้เกียจชกลมเนี้ยะ ยิ่งชกลมด้วยตัวเอง อย่าให้พูด
(ผู้แปล:โอ๊ะ!รู้ใจส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบทำมันดูเหมือนคนบ้าไงไม่รู้ ตอนไปชกลมในที่สาธารณะ) อย่าให้มันเกิดขึ้นเชียว (ผู้แปล:ย้ำจัง!!) เมื่อคุณชกลม ให้คุณจินตนาการถึงฝั่งตรงข้ามว่า เค้ายืนประจันหน้าคุณแล้ว ใช้ความเร็วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ทั้ง 3 รอบ  โยกหัวและตัว  โฟกัสไปที่ เสตปเท้าด้วย หัดทำการป้องกัน  มันจะดีขึ้น การยืนสู้ของคุณก็แกร่งขึ้นด้วย (ผู้แปล:กดวิดีโอนี้เพื่อความเข้าใจมากขึ้นครับ


                                            

-ยกที่1 ฟุตเวริ์คตามจังหวะโจมตี เคลื่อนตัวไปรอบๆอย่างบ้าพลัง และหยุดเพียงเสี้ยว วิ แล้ว โจมตี มูฮัมหมัด อาลี กล่าวว่า มันดีมากถ้าเราจะ
เคลื่อนไหวแบบ ผีเสื้อ แต่โจมตี เหมือนผึ้ง
-ยกที่2  ฝึกการใช้เข่า และ
Teeps (ปัดลูกแตะ) รอบนี้ยังมุ่งเน้นที่เท้าอยู่ แต่เริ่มโจมตีโดยเน้นใช้ร่างกายส่วนล่างของคุณ การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้จะทำให้ดูคมชัดขึ้น อย่าลังเลที่จะรีบกลับไปเช็คระยะยืนหลังจากคุณออกอาวุธไปแล้ว
-ยกที่3
 ใส่มันทั้งหมดเข้าด้วยกันจัดเต็ม หมัด เท้า เข่า ศอก และใช้ท่าปัดป้องด้วย

ส่วนที่ 2: ชกกระสอบทราย
1. ลูกถีบ 50 ครั้ง
สลับขวาและซ้าย
กระสอบทรายจะแกว่งไปมาในการถีบ ในขณะที่กระสอบทรายแกว่งมาทางคุณ  หยุดมันด้วยการถีบด้วย ให้แน่ใจว่าฟุตเวริ์คคุณ มีปฏิกิริยาตอบสนอง
(ผู้แปล:Reaction) อย่าเพียงแต่ยืนรอกระสอบทราย เคลื่อนตัวไปทั้งทางซ้ายและขวาด้วย  (ผู้แปล:กดวิดีโอนี้เพื่อความเข้าใจมากขึ้นครับ)

                                         
    

2. แตะขวาง 50 ครั้ง / 1 ขา
(roundhouse kicks)
ควรแตะให้เสร็จเป็นขา ๆ ไปอย่าพึ่งรีบสลับ ในระหว่างการฝึกนี้ เน้น แตะ ขา ตัวและ หัว มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพการบิดลำตัว ความเร็ว กำลัง และการถอยฉาก

3.ฟรีสไตล์ 5 ยก
ในการชกนี้มุ่งเน้นความอิสระและการผสมผสาน  ใช้อาวุธทุกอย่างที่คุณมี  จังหวะฟุตเวริ์ค  เทคนิคการปัดป้อง และการออกอาวุธหลอก จำตอนที่คุณชกกระสอบทรายไว้ แต่ไม่ได้หมายถึง ออกอาวุธ 50 ทีติดกันหรอกนะ  เทคนิคคุณจะผสานกัน และจะออกมามาเนียนยิ่งขึ้น  คุณจะออกอาวุธและคลื่อนไหวก็จะพริ้วขึ้น  คุณโปรดจำไว้ว่าคุณฝึกอะไรกับกระสอบทรายบ้าง  เมื่อคุณเข้าคู่ซ้อมก็ปฏิบัติมันจนกว่าจะสมบูรณ์แบบ ทำมันจนติดเป็นนิสัย  โชคดีครับ

(ผู้แปล:จบไปแล้วครับสำหรับบทความ บทความนี้เท่าที่สังเกต จะให้ความสำคัญกับการยืดเหยียดมาก แล้วมุ่งเน้นในการสังเกตุตนเองปรับปรุงข้อผิดพลาด อารมณ์ประมาณวันเบาๆ วันนี้เพื่อนไม่มาซ้อมเองก็ได้ เช๊อะ!! พรุ่งนี้มันก็มาแล้ว  แต่ยังไงก็แล้วแต่การซ้อมกับคู่ซ้อมก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะครับ  สำหรับวันนี้สวัสดีฮะ)   

 
แหล่งที่มา http://breakingmuscle.com/kickboxing-boxing/how-to-train-muay-thai-on-your-own

วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558

8 ทักษะเบื้องต้น สำหรับ บราซิลเลี่ยนยูยิทสู(BJJ)


ผู้เขียน Nicolas Gregoriades ผู้แปล(มั่ว) Antimage
8 ทักษะเบื้องต้น สำหรับ บราซิลเลี่ยนยูยิทสู(BJJ)
นี้คือเรื่องที่ ผมเขียนให้นิตยสารที่สหรัฐฯ Jiu-Jitsu Magazine เป็นนิตยสารที่ได้รับความนิยมสูง คุณสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองเลย

กี่ครั้งแล้วที่คุณได้ยินเหล่า หนุ่มๆ BJJ คุยกันเรื่อง  พื้นฐาน?”ทุกคนต่างบอกว่า คุณจะต้องมีพื้นฐานที่ดี แต่อะไรคือความหมายของมันละ? สิ่งที่กำหนดว่าเนี้ยะ..คือพื้นฐาน?

แต่ผมก็ไม่ได้มีคำตอบสำหรับสิ่งที่ว่ามานี้นะ แต่ในบทความนี้ ผมได้กำหนดไว้ละ 8 ทักษะพื้นฐานสำหรับยูยิตสู ที่ผมรู้สึกว่าเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเกมที่ดีการในต่อสู้เลยล่ะ
เหล่านี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น 'ที่คุณควรจะต้องรู้? หรือไม่แน่ก็ไม่ต้องรู้  อาจารย์อีกคน อาจจะมีการสอนเบสิกเบื้องต้นที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง. แต่ถ้าคุณเรียนรู้และเริ่มฝึกเบื้องต้นตามนี้ ผนึกมันไว้ในตัวคุณ สิ่งเหล่านี้ผมรับประกันได้ว่าจะคุณจะเป็นนักมวยที่เจ๋งเป๊งแน่นอน (ผู้แปลเริ่มมั่วและใส่อินเนอร์ตัวเอง)

1.การผ่อนคลายในขณะที่ฝึกซ้อม

 
สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดเลยนะในการพัฒนา BJJ ถ้าคุณฝึกโดยปราศจากการผ่อนคลาย ไม่ช้าก็เร็วคุณก็จะเบื่อ(ผู้แปลจริงๆเค้าใช่คำว่าOvertrain ผู้แปลเชื่อว่าเหล่านักกีฬาเข้าใจคำศัพท์นี้ดี) และมีโอกาสเกิดขึ้นบ่อยกว่าการบาดเจ็บซะอีก  ที่ไม่เพียงแต่คุณจะซุปเปอร์เครียดแล้ว การพัฒนาคุณก็จะช้าไปด้วย  อันที่จริงมันได้รับการพิสูจน์แล้วนะ ว่าคนเรียนรู้เร็วที่สุดก็คือคนที่ผ่อนคลายในการฝึก 

แต่ที่พูดๆมาเนี้ยะพูดมันง่ายกว่าทำ และมักจะมีครูสอน BJJ มาถาม อืม..ฝึกเด็กให้ผ่อนคลายทำไงว่ะ 

ตามประสบการณ์ของผมนะ ผมว่าปัจจัยหลัก ที่เด็กเล่นๆแล้วไม่รู้สึกสงบและควบคุมไม่ได้ก็คืออีโก้เค้านี้แหละ
ไม่มีใครที่ชอบตบแท็ป(ผู้แปลTap out) หรอก แต่มันเป็นหายนะบนความอีโก้เลยนะ ไอ้อีโก้เนี้ยะ มันจะครอบคลุมและอยากครอบครองแต่ชัยชนะ แต่ผมมีเคล็บลับเล็กๆน้อยๆแนะนำคุณ  คิดตามนะ คุณไม่เคยเป็นนักยูยิสสูที่ดีที่สุดในโลก คุณอาจไม่เคยเป็นคนที่แกร่งสุดในโรงฝึกโดโจ แต่เพื่ออะไรละ? มันเป็นตำแหน่งที่เจ็บปวดที่สุดและหายวับไปเร็วที่สุด เพราะอะไรน่ะหรอ มีแต่คนที่จ้องจะแตะตูดคุณไง ไม่นานหรอกก็จะมีคนเก่งกว่าคุณมาแทนที่ ลืมเรื่องแพ้-ชนะไปเลย  เอาเวลาไปใส่ใจกับการเรียนรู้และการพัฒนา  มันเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่า  เชื่อผม

2.การดีดตัว และดีดกุ้ง (Bridging and Shrimping)
ผมเคยได้ยินการเปรียบเทียบที่น่าสนใจ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นภาษาของพวกสายปล้ำ
 (ผู้แปล grappling) และการสนทนาในระหว่างจับคู่ซ้อม

ถ้าการปล้ำเป็นภาษา ดังนั้นการสะพานโค้ง
(ผู้แปล การดีดตัว)กับการดีดกุ้ง (ผู้แปล ดีดกุ้ง ถ้าแถวบ้านเราเรียก Hip Escape) ก็อาจจะได้รับการพิจารณาให้เป็น สระ พวกนี้เป็นสิ่งสำคัญ  สองสิ่งนี้มันจะเป็นตัวเชื่อม การเคลื่อนไหวของเราทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อให้มันราบลื่น มีความต่อเนื่องขึ้น “หลอมรวม การเคลื่อนไหวของคุณทั้งหมดเข้าด้วยกัน

Flavio Canto นักยูโด โอลิมปิกและนัก  BJJ สายดำ  ครั้งหนึ่งเคยพูดว่า  การฝึกการเคลื่อนไหวไม่ใช่การย้าย เคลื่อนที่เท่านั้น ตอนนี้ผมเข้าใจเหตุผลของเค้าแล้วล่ะ การเคลื่อนไหวมีหลากหลาย และสามารถนำมา  หลอมรวมกันเป็นเทคนิคได้
และพวกเขายังทำให้เกิด การระเบิดครั้งใหญ่ในการฝึกแบบ ตัวถังรถ ด้วย (ผู้แปลน่าจะหมายถึงการฝึกความอึด) 

ตอนนี้เพียงแค่คุณทำการฝึกซ้อมท่าเหล่านี้ใน แต่ละช่วงการวอร์มร่างกายในชั่วโมงฝึก ไม่ได้หมายความคุณกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้องในสายตาพวกเค้านะ อาจดูไม่เข้าท่า สำหรับพวกเค้า  แต่สำหรับผมได้รับการฝึกมาเกือบ 12 ปี และผมก็ยังต้องปรับปรุงท่าสะพานโค้งกับดีดกุ้งตลอดไม่มีหยุด และเก็บไว้ในใจว่า ต่างคนต่างฝึกมาหลายรูปแบบ ใช้เวลาในการศึกษาและการฝึกพวกท่าพวกนี้และผมรับประกันว่าคุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

3.การฝึกปล้ำอย่างถูกต้อง
โค๊ชคนแรกของผม
 Felipe Sousa บอกผมไว้ในช่วงต้น ในอาชีพการต่อสู้ของเค้า  ถ้าเอ็งจับคู่ต่อสู้ไม่ได้เอ็งก็สู้ไม่ได้ เป็นคำที่ดูชาญฉลาด คุณต้องเข้าใจก่อนว่า แรงจับ ที่มีประสิทธิภาพมีอยู่สามองค์ประกอบ 

คือหนึ่งความแข็งแรงของมือ นิ้วมือและมือของคุณจะเป็นธรรมชาติหลังจากที่ฝึกได้สักสองปี แต่ถ้าคุณต้องการจะเร่งเทอร์โบ คุณต้องหาฝึกเพิ่ม
(ผู้แปลในที่นี้ใช่คำว่าอบรม ไม่แน่ใจว่าหมายถึงการเวริ์คชอปหรือปล่าว?) มีแกดเจ็ตจับการเสริมสร้างนับไม่ถ้วนและมีหลายหลักสูตร ซึ่งผมมั่นใจว่ามีค่าแน่นอนในการฝึก สำหรับผมนะการฝึกที่พัฒนาในการ จับ  มากที่สุดก็คือการปีนเขา  ลองออกไปปีนดูสักครั้งคุณจะพบการพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่ในตัวคุณ

การจับที่มีประสิทธิภาพข้อที่สอง  
การจับที่มีประสิทธิภาพ  ถ้าคุณกำลังออกแรงโดยใช้ความแข็งแรงมากเกินไป ในที่สุดแขนคุณก็จะเมื่อยล้าและการจับของคุณก็จะมีประสิทธิภาพลดลง คุณลองดูที่วิดิโอนี้คุณจะเข้าใจมากขึ้น ในวิดิโอนี้
                                             
 

และอย่างสุดท้าย จุดตำแหน่งจับที่สำคัญ  คุณจะต้องแข็งแกร่งขึ้นแน่นอนเมื่อรู้จุดที่จับที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก แต่ถ้าจุดยังจับจุดผิดอยู่  คุณต้องพยายามดิ้นรนที่จะทำมันให้ได้ซะก่อนเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของคุณ ลองดูวิดิโออีกที ว่าคุณจับได้ถูกต้องแล้วหรือยัง

4.การยืน พาสการ์ดในความคิดของผม การผ่านการ์ด ดูจะเป็นส่วนที่ยากที่สุดใน BJJ ถ้าไปเจอคนที่มีขาแข็งแรงและสะโพกพริ้วจัด เจอแบบนี้เข้ามันนรกชัดๆ การยืนผ่านการ์ด ควรจะเรียกว่า การยืนเพื่อ เปิดการ์ดมากกว่า เพราะส่วนใหญ่คุณจะยืนก็เพื่อที่จะทำขั้นตอนแรกในการผ่าน ซึ่งก็คือ การเปิดขาของเค้าซึ่งไขว้กันอยู่ด้านหลังช่วงล่างของคุณนั่นเอง 
ครั้งเมื่อเค้าเปิดขา คุณก็สามารถทำการ การ์ด ผ่านตำแหน่งการยืนและตำแหน่งการคุกเข่า  เอาเถอะยังไงก็แล้วแต่ การทะลวงการ์ดที่เหมาะสม  jiu-jitsoka(ผู้แปลขอทับศัพท์นะครับ) ก็คือการที่คุณต้องลุกขึ้นยืนอย่างสม่ำเสมอ ลองเช็คดูมีหลายท่าหลายเทคนิคนะ ที่เป็นท่าทำลายการการ์ด จากหัวเข่าของคุณเอง แต่พวกเค้าต้านคุณได้ ขาเค้าแข็งแรง ก็ถามเค้าหน่อยเหอะ ว่าเค้าฝึกขายังไงให้แข็งแรง 

ส่วนรายละเอียดอื่นเกี่ยวกับการยืนพาสการ์ด ลองคุยกับอาจารย์คุณดูสิ ถ้าเค้าเจ๋งจริงเค้าจะแสดงเทคนิคที่ถูกต้องให้คุณดู และการทำแบบนี้ต้องยืนกรานนะว่าคุณไม่ได้เอาไปใช้ในการฝึกส่วนตัว
 
5.การออกจาก คร่อมด้านข้าง

การออกการหนีไม่ใช่เสน่ห์สำหรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบ
BJJ แต่อย่างน้อยพวกสายม่วงเค้าก็กำลังพยามทำในสิ่งสำคัญในแง่ของเกมส์การแข่งขัน และการออกจากคร่อมด้านข้าง เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในด้านการป้องกันการเล่นของเค้า 

หลังจากปีของการฝึก การเรียนการสอน
 BJJ ผมได้ระบุสามองค์ประกอบ และนั่นคือกุญแจที่จะประสบความสำเร็จ ผมเชื่ออย่างนั้นอย่างแรกคุณต้องปกป้องคอคุณตลอดเวลา คุณสามารถมีการหลบหลีกที่ดีที่สุดในโลก  แต่ถ้าคุณ โดนโช๊คก็ไม่มีอะไรจะช่วยคุณได้หรอก อย่างน้อย คุณควรจะเก็บไว้ ซักแขนหนึ่ง เพื่อป้องกันการโดนจับคอเสื้อก็ยังดี  เพราะยังไงคุณก็ต้องโดนจับคอเสื้อตลอดเวลาอยู่แล้ว 

อย่างที่สองสะพานโค้งกับการดีดกุ้ง
 (คุ้นๆป่ะ?) ความลับมันอยู่ที่การเรียนที่จะเคลื่อนย้ายอย่างถูกจุดถูกเวลา และลองผนึกสองสิ่งนี้ การ(สะพานโค้ง)มักนำการ(ดีดกุ้ง)เสมอๆ ส่วนรายละเอียดอื่นผมจะหามาให้ในบทความหน้า 

และอย่างสุดท้ายที่คุณต้องพยายามเรียนรุ้คือการคอมโบ
 แทนที่การ์ด และการออกจากตำแหน่งเข่า ถ้าคุณรู้วิธีการทำทั้งสองอย่าง อย่างดีคุณจะมีโอกาสที่ชนะร้อยละ 90 เชียว ขอพูดอีกครั้งถ้าคุณต้องการรู้ข้อมูลพวกนี้ลองถามอาจารย์ของคุณดู

6.การควบคุมการหายใจ
คุณสามารถเรียนรู้และทำเองได้เองเลยบนเบาะ มันจะเชื่อมโยงไปยังจิตใจ ซึ่งเป็นการเปิดการเชื่อมโยงกับลมหายใจของคุณ ถ้าการหายใจของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและแม้กระทั่ง คุณเคลื่อนไหวก็ราบรื่น แต่มันก้มีโอกาสมากขึ้น แต่ถ้าคุณหอบหรืออ้าปากพะงาบๆหาอากาศ ผมสามารถมั่นใจได้ว่า ยูยิสสูของคุณไม่ได้ผล
 (ผู้แปลคงหมายถึงให้ฝึกหายใจเพิ่มเติม)

อีกสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการควบคุมการหายใจ  มันยังช่วยคุณได้ เกี่ยวกับเรื่องอีโก้
  โดยที่มุ่งเน้นไปในการกำหนดลมหายใจเข้าและออก ในร่างกายคุณ โดยคุณจะตัดสิ่งเร้าภายนอก ที่อาจทำให้คุณเสียสมาธิระหว่างการเข้าคู่ซ้อมได้ดีอีกทางหนึ่งด้วย 


7.การล็อคแขนตรงจากการ์ด

นี้คือสิ่งแรกที่ผมสอนในคลาสส่วนตัวของผม แม้จะประยุกต์ให้ง่ายก็จริงแต่ยังมีความซับซ้อนในตัวมันอยู่
 

จงเรียนรู้และจดจำให้ความซับซ้อน ตั้งแต่เริ่มจนจบ มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักเรียนที่พึ่งเริ่มต้นเรียน ผมไม่สามารถอธิบายเรื่องระบบความจดจำได้  แต่ตามประสบการณ์ของผมแล้วเรื่องพวกนี้มันจะง่ายขึ้นถ้า คุณได้ลองเคลื่อนไหวทดลองทำด้วยตัวคุณเอง
 

นอกเหนือจากนี้ การเข้าใจ การล็อคแขนตรงจากการ์ด
(ผู้แปลน่าจะหมายถึงการล็อคต่างๆจากตำแหน่ง Close Guardนะครับ)    Jiu-jitsoka(ผู้แปลขอทับศัพท์นะครับ)   ก็ยังมีความสำคัญในการเข้าใจแนวคิดของการต่อสู้  แนวคิดการจับและการควบคุมศรีษะ ยังสร้างมุมมองของการโจมตี และยกระดับการใช้สะโพก/กล้ามเนื้อแกนกลาง/การเคลื่อนไหวด้วยก้น (ผู้แปล Gulte ศัพท์กล้ามเนื้อ) เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้ดูตามวิดิโอนี้ครับ

                              


8. การกวาดขากรรไกร(The Scissor Sweep)
ผมเคยได้ยินว่า
 Rickson เค้าพูดว่าการกวาดกรรไกรสำคัญที่สุด ถ้ามันจริงผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไม การกวาดกรรไกรมีความสำคัญเนื่องจากอะไร  คุณจะต้องนำมันมาผสมผสานกัน มีเทคนิคหลายอย่างที่สำคัญกับเทคนิคนี้ 
การควบคุมของข้อมือและแขน ที่คุณกำลังกวาดไป
คุณสามารถมองเห็นสิ่งนี้เป็นข้อผิดพลาดของตัวคุณเอง เพราะถ้าคุณไม่ทำแบบนี้ ต่อให้การฝึกกวาดขามาล้านปีก็ไม่สมบูรณ์แบบสักที

พลังในการกวาดเหล่านี้ ทำได้โดยใช้สะโพกและลำตัวมากกว่าเมื่อเทียบกับแขน
ส่วนใหญ่เวลาที่ ถ้าคุณใช้แขนมากเกินไปในการเคลื่อนไหวมักจะมีผลที่ไม่น่าพอใจนัก
มองดูพวกที่หัดเล่นใหม่ๆจะพยายามเล่นงานฝ่ายตรงข้ามโดยใช้แต่แขนเสียเป็นส่วนใหญ่เมื่อทำการกวาด แต่อันที่จริงต้องใช้ขานำในการกวาด
 

การใช้แรงโน้มถ่วงของคู่ต่อสู้ให้เกิดประโยชน์
เทคนิคการกวาดกรรไกรที่ดีนั้น
  คุณควรใช้ขาด้านบนและจับคอเสื้อเพื่อยกสะโพกของคู่ของคุณ โดยการดึงเข้าหาตัว ทำให้เกิดศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วง (กระดูกเชิงกราน) และง่ายกว่าในการพลิก  แหละนี้เป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบที่เจอบ่อยในการกวาด 

สำหรับข้อมูลในการทำท่ากวาดกรรไกรหาดูได้ในยูทูป มีการบอกรายละเอียด ลองดูที่พวกเค้าอธิบายจะเข้าใจมากขึ้น

ผมหวังว่าคุณจะมีความสุขในการอ่านบทความแรกที่ผมเขียน




แหล่งที่มา
 http://www.jiujitsubrotherhood.com/2012/07/8-basic-skills-for-jiu-jitsu/